AAความเค็มที่อยูในแกงกะหรี่ตอมื้อนั้นมีอยูในปริมาณที่นอย ขณะที่ในประเทศญี่ปุนผูคนใสใจเรื่องอาหารรสเค็มนอยกันมาก ความเผ็ดในแกงกะหรี่เปนความเผ็ดที่มาจากเครื่องเทศ อยางในพริกไทย พริก หรือขิง ลวนมีองคประกอบความเผ็ดที่มีอยูแลวในวัตถุดิบแตละอยางที่กลาวมา ดังนั้น จึงแตกตางไปจากความเผ็ดที่พบในเกลือความเค็มที่อยูในกอนแกงกะหรี่จะแตกตางกันไปมากนอยตามแตผลิตภัณฑ ทั้งนี้ จะอยูที่ประมาณ 10% กลาวคือ มีปริมาณการใชเกลือตอมื้ออยูที่ 18-20 กรัม ดังนั้น ปริมาณที่รางกายรับเกลือตอครั้งจึงอยูที่ราว 1.8 กรัม แตไมเกิน 2.0 กรัม ปจจุบันกระทรวงสาธารณสุขไดใหคำแนะนำวา ควรจำกัดปริมาณการรับเกลือในอาหารตอวันตอคนอยูที่ต่ำกวา 10 กรัม ซึ่งแกงกะหรี่มีปริมาณเกลืออยูที่ต่ำกวา 3.3 กรัมตอมื้อ ดังนั้น นอกจากจะไมตองกังวลในเรื่องนี้แลว ยังจัดวาเปนอาหารแนะนำสำหรับผูที่ตองการเลี่ยงรสเค็มอีกดวยเนื่องจากแกงกะหรี่มีรสเผ็ด ดังนั้น ความเค็มนาจะมีมากดวยใชหรือไมQมีวิธีการบริหารจัดการใดที่ดีที่จะตองไมตองเหลือน้ำซอสแกงกะหรี่จากถุงรีทอรตหรือไมQเนื่องจากขนาดมาตรฐาน คือ 3 กิโลกรัม และ 150 กรัม ดังนั้น จึงมีวิธีที่สามารถใชงานแตละขนาดรวมกันไดหากในชวงเปดราน ใชแบบถุง 3 กิโลกรัม แลวเมื่อใกลปดราน ยังไมไดเริ่มเปดถุง 3 กิโลกรัมถุงใหม แนะนำใหใชแบบถุงเล็กขนาด 150 กรัมกอน การทำเชนนี้ จะชวยใหชวงปดราน ไมตองมีถุงใดที่เปดใชงานคางไวอยู นอกจากนี้ แมจะอุนไปแลว 1 ครั้งในขณะที่ถุงที่อุนไปนั้นยังไมถูกฉีกซองออก จะยังสามารถเก็บไวใชงานตอไปไดอยู ทั้งนี้ การผานความรอนเปนเวลาหลายชั่วโมง หรือผานความรอนซ้ำไปมาหลายครั้ง จะทำใหสูญเสียรสชาติความอรอยดั้งเดิมในผลิตภัณฑไปได3kg150g3.3gความเค็มในอาหารAสามารถนำมาใสในน้ำสลัด หรือโรยหนาอาหารไดโดยไมตองผานความรอน ทั้งนี้ กรุณาหลีกเลี่ยงการใชงานกับของที่ยังไมปรุงสุกและตองทิ้งไวนานหลายชั่วโมง นอกจากนี้ ผงแกงกะหรี่ยังผานการ “อังไฟใหแหง” เพื่อดึงกลิ่นหอมที่มีเอกลักษณเฉพาะตัวออกมาชวนรับประทานสามารถนำผงแกงกะหรี่มาใชไดเลยโดยไมผานความรอนไดหรือไมQ22
元のページ ../index.html#23